เวลาพาครอบครัวไปเที่ยว คุณต้องการอะไร ที่พักที่สบายเหมือนบ้าน ที่ให้ลูกเล่นน้ำ เข้าคิดส์คลับ มีห้างให้ลูกไปกินข้าว เดินเล่น ช้อปปิ้ง ให้เด็กได้ปลดปล่อยพลังงาน ทั้งหมดที่ว่ามามีอยู่ในนี้ Grande Centre Point PATTAYA โรงแรมเปิดใหม่ใจกลางพัทยา อยู่บนห้าง Terminal 21 Pattaya
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ห้างใหม่กริ๊บอย่าง Terminal 21 Pattaya พึ่งเปิดและแน่นอนว่ากลายเป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองพัทยาแห่งนี้ และนอกจากห้างแล้วในอาทิตย์ต่อมาก็มีการเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ที่อยู่บนห้างด้วยนั่นก็คือโรงแรม Grande Centre Point PATTAYA นั่นเอง โรงแรมแบรนด์หนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ชื่นชอบของการพาครอบครัวเที่ยว และยิ่งที่นี่ได้ทาง Land and House มาเป็นผู้บริหาร ยิ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างเต็มที่เลยละ
ครอบครัวเรามีโอกาสไปพักที่นี่ในวันเปิดตัวพอดี ซึ่งในวันเปิดตัวถือว่าเป็นวันที่มีอัตราเข้าพักสูงมากๆถ้าเทียบกับหลายๆโรงแรมที่ครอบครัวเราเคยไปมา แอบๆถามพนักงานได้ยินมาว่ามีอัตราเข้าพักร่วม 80% เลยนะ สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ราวๆ 3,xxx บาท ซึ่งราคาอาจจะแตกต่างไปในแต่ละวันลองตรวจสอบตามเว็บไซต์ที่แต่ละคนถนัดได้เลยจ้า
แน่นอนว่าวันที่ไปมีรถมหาศาลเพราะคนยังเห่อกับห้างใหม่อย่าง Teminal 21 อยู่ แต่เรื่องที่จอดรถไม่มีปัญหาเพราะมีการกั้นที่จอดรถเฉพาะสำหรับแขกโรงแรมที่ชั้น 2 ดังนั้นที่จอดถือว่าเหลือๆเลยหล่ะ แต่ตอนวันรถเข้ามาให้วนไป Drop ของลงที่หน้าโรงแรมก่อนนะ แล้วทางโรงแรมจะให้บัตรสำหรับขึ้นไปจอดรถบนชั้นจอดของโรงแรมอีกทีหนึ่ง
หลังจากจอดรถเสร็จแล้วลงมาเช็คอินกันได้เลย ที่ล็อบบี้จะตกแต่งออกโทนสีฟ้า เปรียบเสมือนว่าเราลงมาอยู่ในโลกใต้ท้องทะเล อย่างไร อย่างนั้น ข้างๆเค้าท์เตอร์เช็คอินจะมีส่วนของ Welcome Drink ให้บริการซึ่งมีทั้ง น้ำเปล่า น้ำหวาน และชากาแฟบริการ รวมถึงมีหนังสือพิมพ์และนิตรสารให้อ่านรอระหว่างทำการเช็คอินด้วย
ใกล้ๆล็อบบี้ตรงทางที่จะเดินไปยังห้าง Teminal 21 ก็จะมี Business Lounge ให้มานั่งทำงานหรือคุยธุรกิจส่วนตัวได้
ลิฟท์ที่นี่มีให้ใช้งาน 5 ตัว การจะไปชั้นต่างๆจะต้องใช้ Key card ในการไป และในส่วนของห้องพักจะไปใช้เฉพาะชั้นที่เราพักเท่านั้น เท่าที่ใช้ถือว่าลิฟท์เร็วจี๋เลยละ
ที่แต่ละชั้นจะมี Facility ที่เหมือนกันคือจะมี ตู้กดซื้อน้ำซื้อขนม รวมไปถึงมีบริการน้ำแข็งฟรีด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโรงแรมเครือนี้ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งของที่ซื้อจากตู้กดนี่คือราคาแทบจะเท่าที่ซื้อจาก 7-eleven เลยนะ ครอบครัวเราเสียเงินกับตู้กดนี้ไม่น้อยเลย เพราะเป็นของใหม่ที่น้องโฟกัสไม่เคยเห็นนางเลยชอบ และชวนพ่อไปหบอดเงินซื้อของไม่หยุดเลย ฮา…
ห้องพักของโรงแรมทุกห้องจะเป็นแบบ Seaview ทั้งหมด หลักๆจะมี 3 แบบคือ Superior Seaview / Deluxe Seaview / Panoramic Suite Seaview แต่จะมีเพิ่มเติมเล็กน้อยคือ ห้อง Deluxe จะมีบางห้องที่เป็นห้องหัวมุม และห้อง Deluxe จะมีแบบห้อง Connection ด้วยซึ่งเราสามารถเลือกห้องแบบ Connection ได้ตั้งแต่ตอนจอง รวมถึงห้องแบบ Panoramic Suite Seaview นั้นก็จะสามารถ Connection กับห้อง Deluxe กลางเป็นห้องแบบ Two-Bedroom Panoramic Suite ได้ด้วย ดังนั้นถ้าแบ่งตามที่โรงแรมแบ่งไว้จะมี 6 Type ดังนี้
Superior Seaview
Deluxe Seaview
Deluxe Corner Seaview
Deluxe Family Connecting
Panoramic Suite Seaview
Two-Bedroom Panoramic Suite
SUPERIOR – DELUXE SEVIEW ROOM
วันที่เราไปเราพักห้องแบบ Superior Seaview ซึ่งเอาจริงๆแล้วมีขนาดเท่ากับห้องแบบ Deluxe เลยต่างกันตรงที่ห้อง Deluxe จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่ห้อง Superior ได้เพิ่มมาคือพื้นที่ด้านนอก เพราะไม่เสียพื้นที่ในห้องน้ำไปให้กับอ่างอาบน้ำนั่นเอง ซึ่งก็เลยมีการใส่ Sofa bed เพิ่มขึ้นมาให้ซึ่งทางโรงแรมสามารถปรับให้เป็นเตียงเสริมได้เลย ซึ่งห้องทั้งหมดที่ว่ามาก็จะมีให้เลือกทั้งแบบ Double และ Twin โดยห้อง Double เตียงจะเป็น Size 7′ เลยนะคือใหญ่โตดีงาม
ภาพข้างบนจะเป็นห้อง Superior ซึ่งด้านนอกจะมี โซฟาเบดด้วย ส่วนภาพข้างล่างนี้จะเป็นเตียงห้องแบบ Deluxe จะเห็นว่าไม่มีโซฟาเบด ส่วนฝั่งตรงข้ามเตียง จะเป็นทีวี เหมือนกันทั้ง 2 ห้อง ทีวีที่มีให้ก็ดีงามนะ เพราะมีช่องของ True Vision ให้ดูซึ่งมีช่องสำหรับดูบอลอย่าง Bein sport 1-2 ด้วยซึ่งถือว่าดีกว่าหลายโรงแรมที่ซื้อแพคเกจถูกๆมาแล้วไม่มีบอลให้ดู
สำหรับห้อง Connecting ก็จะเป็นการจับคู่ห้อง Twin กับห้อง Double เหมือนโรงแรมทั่วๆไป
อ้อที่นี่ทุกห้องจะมี Mini bar ให้และขนมน้ำต่างๆฟรีทุกรายการ และเติมให้ทุกวันด้วยนะ
มาดูห้องน้ำกันบ้างอย่างที่บอกข้อแตกต่างของห้อง Superior / Deluxe จะอยู่ที่ห้องน้ำที่ห้อง Deluxe จะมีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาด้วยนั่นเองนอกนั้นจะเหมือนกันหมดที่โรงแรมนี้โถส้วมใช้เป็นแบบ Washlet หรือฝารองอัตโนมัติแบบญี่ปุ่นด้วยนะ มีระบบอุ่นฝารองนั่งให้อุ่นด้วยคือดีงาม
PANORAMIC SUITE SEAVIEW
สำหรับห้อง Panoramic Suite Seaview จะอยู่สุดตึกของโรงแรมซึ่งจะมีชั้นละ 2 ห้องมุมซ้ายขวา ฝั่งนึงจะเห็นวิวอ่าวพัทยา อีกฝั่งหนึ่งจะเห็นวิวหาดวงศ์อมาตย์ ลักษณะห้องจะออกแนว Studio มีทั้งส่วนโต๊ะอาหารอยู่บริเวณด้านหน้า และมีเป็นโซฟาชุดใหญ่อยู่ด้านหน้าทีวี แต่ตรงกำแพงฝั่งที่แขวนทีวีจะไม่ได้มีโต๊ะยื่นออกมาเหมือนห้อง Superior / Deluxe แต่ก็นะสามารถไปใช้ตรงโซฟาหรือโต๊ะกินข้าวได้อยู่แล้ว สำหรับ Minibar จะมีขนมมากกว่าห้องธรรมดาเล็กน้อย นอกนั้น Facility ต่างๆจะใกล้เคียงกัน
สำหรับห้องน้ำถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องแบบนี้เลยนะกับวิวพาโนรามาสวยๆของพัทยา ที่สามารถแช่น้ำไปชมวิวไปได้อย่างฟินๆเลยละ
FLOOR F (ACILITY) – แหล่งรวมความบันเทิงของทุกครอบครัว
สำหรับจุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่ Facility ส่วนกลางซึ่งจะรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น F น้องโฟกัสชอบมากเพราะบอกว่านี่เป็นชั้นของเค้า F(ocus) ฮา…ก็จริง สิ่งที่มีในชั้นนี้ประกอบไปด้วย
ห้องอาหารห้องใหญ่ Waves & Wind
The Fit Club
Kids Club
Amphitheatre
Sky bridge
Water Park
มาดูคิดส์คลับกันก่อนดีกว่า คิกส์คลับที่นี่ตดแต่งไว้สวยงาม ขนาดไม่ใหญ่นัก จุเด็กได้ซัก 10-20 ครอบครัวพร้อมๆกัน จุดเด่นอยู่ที่เรือโจรสลัดที่อยู่ตรงกลางห้องที่เด็กๆชอบมาวิ่งเล่นและปีนป่ายกันอย่างสนุกสนานเลยละ
Grande Centre Point PATTAYA โรงแรมใหม่ สำหรับครอบครัว พัทยา Kid ClubGrande Centre Point PATTAYA โรงแรมใหม่ สำหรับครอบครัว พัทยา Kid Club ของเล่นมีไม่มากนัก แต่ก็โอเคนะ เพราะเด็กๆจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศห้อง นอกจากนั้นก็จะมีเครื่องเล่นเกมส์ของเด็กโต และมีนิทานสำหรับเบบี๋ด้วย เราชอบพาน้องโฟกัสมาเล่นที่คิดส์คลับนะเพราะเป็นที่ที่เค้าได้เจอเด็กวัยเดียวกัน ได้ไปเล่นได้ไปสร้างความสัมพันธ์ภาษาเด็กๆดีเลยล่ะ
ส่วน Amphitheatre เป็นเหมือนลานกว้างๆ ที่มี Stand ให้นั่งให้จัดกิจกรรม คอนเสิร์ทได้อะไรแบบนั้น แต่วันที่เราไปพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษนะ
สำหรับ Sky bridge นี่ถือเป็นจุดชมวิวแห่งแรกของพัทยาที่ทำเป็นพื้นกระจกยื่นออกไปบนอากาศให้ไปประลองความกล้าท้าความเสียวกันได้
The Fit Club ที่นี่ใหญ่พอสมควรรวมถึงมี Trainer คอยดูแลอยู่ด้วย มีเครื่องออกกำลังกายพอสมควรที่สำคัญเปิดดึกถึง 4 ทุ่มแตกต่างจากหลายๆโรงแรมที่เปิดแค่ 1 ทุ่ม แถมที่เครื่องออกกำลังกายแต่ละเครื่องยังมีการเอาทีวีมาตั้งให้ดูได้อย่างส่วนตัวเลยละ แต่ถ้าจะให้ดีมันควรมี หูฟังให้อีกอย่างเพราะเวลาเปิดเสียงแล้วเสียงแอบตีกันเล็กน้อย เราได้มาใช้บริการที่นี่ทุกวันเลย ส่วนใหญ่ก็มาตอนมืดๆหลังจากพาน้องโฟกัสเข้านอนแล้วนั่นละ ด้านนอกห้องจะมีพวกโต๊ะพูลและเครื่องเล่นต่างๆ ให้เด็กเล็กเด็กโต มาสนุกกันได้ทั้งวันทั้งคืนเลย
มาที่ส่วนสำคัญอย่าง Water Park ของโรงแรมที่นี่ แน่นอนว่าไม่ได้ใหญ่โตอลังกาลงานสร้างแบบโรงแรมที่เน้นสวนน้ำ แต่ก็มีอะไรหลายอย่างให้เล่น มีที่ฉีดน้ำพุ่งๆให้เด็กๆวิ่งผ่าน มีถังน้ำยักษ์ที่คอยเทน้ำลงมา และมีสไลเดอร์ให้เล่น เราไปลองเล่นแล้วเห็นแบบนี้แต่ตอนลงมารู้สึกว่ามันเหวี่ยงแรงอยู่นะ
สำหรับใครที่ไม่ได้อย่างเล่นสวนน้ำก็จะมีส่วนของสระว่ายน้ำให้ไปลอยเล่นได้ น้ำโฟกัสชอบเล่นตรงนี้มากกว่า เพราะนางยังมีกลัวๆ ถังน้ำยักษ์อยู่ เลยพาลไม่กล้าไปเล่นอย่างอื่นในสวนน้ำไปด้วย อิพ่ออิแม่ เลยต้องมาลอยคอเล่นน้ำกับหนูโฟกัสแทน แต่เอาเถอะเราเห็นลูกมีความสุขเราก็แฮ้ปปี้แล้ว
สำหรับ Facility ส่วนอื่นๆนอกจากชั้น F ก็จะมีชั้น C(onference) 1 ชั้นเต็มๆไว้รองรับจัดสัมนาและงานเลี้ยงได้อย่างเต็มรูปแบบช่วงที่เราไปก็เห็นมีบริษัทมาใช้บริการแล้วนะ นี่ขนาดเป็นวันแรกที่เปิดตัวนะเนี่ย และมีชั้น M ที่จะมีบริการสปาให้สามารถไปนวดคลายความเมื่อยล้าได้
ห้องอาหาร WAVES & WIND และ THE SKY 32
ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมมีใหบริการทั้งวัน มื้อเย็นบางวันอาจจะมีจัดบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดด้วยนะ ห้องอาหารที่นี่ก็ตกแต่งสวยงามตามธีมของโรงแรมคือใต้ท้องทะเลนั่นแหละ ที่มุมริมกระจกถือเป็นมุมนึงที่วิวดีใช้ได้เลยนะ
หลักๆที่เราจะใช้ห้องอาหารนี้กันก็คือมื้อเช้า ซึ่งอาหารเช้าที่นี่จะมีจัดอยู่ 2 ที่คือที่ห้องอาหารนี้และชั้น 32 ห้อง The Sky 32 ซึ่งถ้าอยากกินแบบมีตัวเลือกเยอะๆก็ต้องที่ห้องอาหาร Waves & Wind นี่แหละเพราะจะมีพื้นที่ที่มากกว่าสามารถจัดได้อลังกว่า แต่ห้องอาหารด้านบนจะออกแนวเนี้ยบ หรู กว่า
บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่นี่ถือว่าจัดเต็มมากนะ วัตถุดิบที่ใช้เยอะและดีมาก รวมถึงมีเมนูอาหารที่หลากหลาย มีเมนูแนว Live Station หลายอย่างอยู่ ซึ่งเอาจริงๆ บุฟเฟ่ต์มื้อเช้านี้สามารถไปจัดขายเป็นบุฟเฟ่ต์เย็นตามโรงแรมในกรุงเทพฯได้สบายๆเลยละ
สำหรับตอนเย็นใครอยากจะโรแมนซ์เราก็แนะนำว่าช่วงพระอาทิตย์ตกขึ้นไปที่ Roof top ได้นะวิวพระอาทิตย์ตกคือดีงาม แต่เราไม่ว่างไงพาลูกไปเที่ยวเลยขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศช่วงเช้าแทน ซึ่งเราว่าก็สวยดีนะ
ส่วนช่วงกลางวันเพื่อความประหยัดเราก็ออกไปเดินเล่นที่ Terminal 21 ที่นี่มีทั้ง Food Court ที่ราคาถูกมากๆ ครอบครัวเราไปฝากท้องมาหลายมื้อเลย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารมากมายเต็มไปหมด มีวันนึงเรานัดเพื่อนๆอีก 3 ครอบครัวไปกินข้าวกันที่ร้านเสวย ซีฟู้ด พัทยา ซึ่งสาขานี้มีการนำอาหารท้องถิ่นทางภาคตะวันออก (Local Dishes) มาเสิร์ฟด้วย เรารีวิวไว้แล้วที่นี่ ไปอ่านกันได้นะ เสวย ซีฟู้ด พัทยา SAVOEY SEAFOOD CO. TERMINAL 21 PATTAYA – ซีฟู้ดอร่อยสด ชมวิว ชิลห้องแอร์
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เวลา 3 วัน 2 คืนของครอบครัวเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปโดยไม่จำเป็นต้องขับรถออกไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะการมาที่นี่ที่ โรงแรม Grande Centre Point PATTAYA นั้นตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัวเราหมดแล้ว
บทสรุปโรงแรมเปิดใหม่ GRANDE CENTRE POINT PATTAYA
ที่พักที่ทุกครอบครัวต้องไปเช็คอิน
เป็นโรงแรมที่มีครบทุกอย่างที่คนมีครอบครัวต้องการเรียกมามาพักผ่อนที่นี่อยู่โรงแรมได้ทั้งวันโดยไม่ต้องออกไปไหน
ตั้งอยู่ที่ Terminal 21 Pattaya สะดวก ทั้งช้อปปิ้ง ดูหนัง กินข้าว
โรงแรมตกแต่งหรู เรียบ อยู่สบายใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในห้องพักได้ง่าย สมแล้วที่ Land and House เป็นคนมาบริหารจัดการ
ห้องน้ำให้โถส้วมอัตโนมัติ Washlet หรูหราไฮโซ
ฟรี มินิบาร์ และเติมใหม่ทุกวัน
มีน้ำให้ห้องละ 4 ขวด
ฟรีน้ำแข็ง และมีตู้กดซื้อน้ำ ขนมทุกชั้น
สวนน้ำ คิดส์คลับ ไม่ได้ใหญ่โตเวอร์วัง แต่มีครบทุกอย่างที่ คนมีครอบครัวต้องการ
อาหารเช้าใหญ่โตเวอร์วัง อาหารจัดเต็ม หลากหลายและใช้วัตถุดิบดี
วิวที่ The Sky 32 คือที่สุดของพัทยาแล้ว
มี Sky Bridge จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของพัทยา
Credit ภาพทุกรูปเป็นของ Travel Planet Xperiences
อ่านบทความอื่นจาก Travel Planet Xperiences